พบกับขนมหวานสไตล์ปารีสที่จางฮวา! คู่สามีภรรยาชาวไต้หวัน-ฝรั่งเศส สร้าง “VNV Pâtisserie” ในสวนโบราณบนเนินเขา


สารบัญ

  1. สถานที่ลับสำหรับขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสบนเขาระหว่างจางฮวาและไทจง
  2. การก่อตั้ง VNV Pâtisserie: ความตั้งใจในงานขนมหวานของสองผู้ก่อตั้ง
  3. สถานที่บรรยากาศสไตล์ฝรั่งเศสใต้บนเนินเขา
  4. ผลงานผสมผสานของเชฟขนมหวานและช็อกโกแลตเชฟ
  5. เมนูขนมหวานแนะนำ
  6. ขนมคลาสสิกและนวัตกรรมช็อกโกแลต
  7. สวนกว้างและจิตวิญญาณของแบรนด์
  8. Q&A

สถานที่ลับสำหรับขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสบนเขาระหว่างจางฮวาและไทจง

“VNV Pâtisserie” ตั้งอยู่บนเนินเขาระหว่างเขตจางฮวาและไทจง เป็นร้านขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ “หายใจ” ในบรรยากาศที่เงียบสงบ KUBET ที่นี่ไม่ใช่ร้านขนมในโรงแรมหรูหรือจุดเช็คอินยอดนิยม แต่เป็นฐานขนมหวานฝันที่สร้างขึ้นโดยคู่สามีภรรยาชาวไต้หวัน-ฝรั่งเศส โดยเชฟขนมหวาน Vincent Pelte มาจากปารีส และช็อกโกแลตเชฟ Valda Chang เป็นคนไต้หวัน ทั้งสองนำภาพและรสชาติของชีวิตในปารีสมาไว้บนเนินเขาแห่งนี้ในไต้หวัน

หัวข้อรายละเอียด
ชื่อร้านVNV Pâtisserie
ที่ตั้งเนินเขาระหว่างเขตจางฮวาและไทจง ประเทศไต้หวัน
ลักษณะร้านร้านขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส บรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว
เจ้าของร้านคู่สามีภรรยาชาวไต้หวัน-ฝรั่งเศส
เชฟVincent Pelte (ชาวฝรั่งเศสจากปารีส) และ Valda Chang (ชาวไต้หวัน)
จุดเด่นนำรสชาติและกลิ่นอายชีวิตปารีสมาสู่ร้านขนมบนเนินเขาในไต้หวัน
บรรยากาศไม่ใช่จุดเช็คอินยอดนิยม แต่ให้ความรู้สึกเหมือนได้หายใจพักผ่อน

การก่อตั้ง VNV Pâtisserie: ความตั้งใจในงานขนมหวานของสองผู้ก่อตั้ง

ชื่อ VNV มาจากอักษรย่อของชื่อผู้ก่อตั้งทั้งสอง KUBET ซึ่งเป็นเหมือนคำสารภาพรักในงานฝีมือและรสชาติขนมหวาน Vincent และ Valda รู้จักกันและแต่งงานกันหลังจากร่วมงานกับ Laurent Duchêne เชฟขนมหวานผู้ได้รับเกียรติ “Meilleur Ouvrier de France” (M.O.F.) ของฝรั่งเศส พวกเขาใช้เวลากว่าสิบปีในการฝึกฝนฝีมือและพัฒนาความงาม KUBET จนสามารถสร้างภาษาขนมหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้

สถานที่บรรยากาศสไตล์ฝรั่งเศสใต้บนเนินเขา

VNV อยู่ห่างจากสถานีรถไฟความเร็วสูงประมาณ 15 นาทีโดยรถยนต์ KUBET ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวและห่างไกลจากความวุ่นวายของเมือง เนื้อที่แห่งนี้ถูกค้นพบโดยบังเอิญระหว่างการเดินทางกลับไต้หวัน และกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่คู่สามีภรรยานำความงามและวิถีชีวิตแบบปารีสกลับมาสู่ไต้หวัน KUBET

รายละเอียดทุกจุดภายในร้านถูกสร้างขึ้นด้วยมือโดยพ่อของ Valda และครอบครัว โคมไฟบนลานสวน ผนังและการจัดวางเก้าอี้ล้วนเป็นของโบราณที่นำกลับมาจากตลาดในปารีส KUBET ผ่านการขัดแต่งด้วยมือ จึงให้บรรยากาศฝรั่งเศสที่เรียบหรูและประณีต

ผลงานผสมผสานของเชฟขนมหวานและช็อกโกแลตเชฟ

เชฟ Vincent มีประสบการณ์ด้านขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสมากกว่า 15 ปี เคยทำงานในร้านขนมหวานชื่อดังของปารีส เช่น Carl Marletti, Carette และ The Ritz Paris เขาถนัดการสร้างสรรค์จากรากฐานดั้งเดิมด้วยความคิดใหม่ ๆ ส่วน Valda เดิมเป็นนักศิลปะก่อนเปลี่ยนมาเป็นช็อกโกแลตเชฟ KUBET ได้รับการฝึกฝนจากสุดยอดเชฟ M.O.F. ชื่อดังของฝรั่งเศสอย่าง Jean-Charles Rochoux และ Patrick Roger

ทั้งคู่ร่วมกันพัฒนาขนมหวานโดยคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงทั้งจากต่างประเทศและผลผลิตออร์แกนิกในไต้หวัน นำผลไม้และถั่วของไต้หวันมาเป็นวัตถุดิบหลัก KUBET สร้างสรรค์รสชาติที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

เมนูขนมหวานแนะนำ

La Sicile ซิซิลี(360 เหรียญไต้หวัน/ชิ้น)
ขนมหวานที่ใช้พิสตาชิโอสีเขียวจากเกาะซิซิลีเป็นวัตถุดิบหลัก ผสมผสานกับรสเปรี้ยวของราสป์เบอร์รี่ ชั้นฐานเป็นอัลมอนด์ครัมเบิ้ลไม่มีไข่ มีแป้งพิสตาชิโอกรอบ และครีมราสป์เบอร์รี่ที่ลดน้ำตาลจนได้ความสมดุลของถั่วและผลไม้ชั้นเลิศ ราดด้วยครีมพิสตาชิโอเข้มข้น รสชาติสดชื่นแต่เข้มข้น

La Souvenir ความทรงจำ (360 เหรียญไต้หวัน/ชิ้น)
ได้แรงบันดาลใจจากความทรงจำวัยเด็กของเชฟ Vincent ใช้วอลนัทคาราเมลผสมกับครัมเบิ้ลวอลนัท ร่วมกับครีมนมกลิ่นวานิลลาจากแทฮิติ และมูสไวท์ช็อกโกแลตที่ลดน้ำตาล ด้านนอกเคลือบด้วยช็อกโกแลตสีขาวตกแต่งด้วยคาราเมลเกลือทะเลและครัมเบิ้ลอัลมอนด์ รสสัมผัสนุ่มนวลและละมุนละไม

ขนมคลาสสิกและนวัตกรรมช็อกโกแลต

กล่องคุกกี้แซนด์วิชช็อกโกแลต
ผลงานชิ้นเอกของ Valda ใช้แซนด์วิชแซนดี้ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะKUBET  เคลือบด้วยช็อกโกแลตดำ 70% กล่องมี 4 รสชาติที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบตามฤดูกาล ได้แก่ ถั่วลิสงออร์แกนิก กล้วยออร์แกนิก เฮเซลนัทจากปิเอมอนเต และงาดำจากคิวกิ แสดงถึงความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด

Fleur de Sablé ดอกไม้แห่งซาแบร (580 เหรียญไต้หวัน/กล่อง)
คุกกี้ซาเบเล่รูปดอกไม้แบบคลาสสิก ทำจากแป้งฝรั่งเศสและเนยเฟอร์เมนต์จากประเทศฝรั่งเศส ไม่มีไข่ กรอบและละเอียด หลังอบเสร็จจะเคลือบด้วยช็อกโกแลต 70% มีรสเฮเซลนัทและมะพร้าว KUBET รสชาติจึงได้ความสมดุลระหว่างความหวานและขม

สวนกว้างและจิตวิญญาณของแบรนด์

VNV มีลานกว้างสีเขียวที่เหมือนสวนในชนบททางตอนใต้ของฝรั่งเศส สร้างบรรยากาศผ่อนคลายและเหมาะสำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ ขนมหวานที่นี่ไม่ใช่แค่ของหรูสำหรับงานเทศกาลเท่านั้น แต่เป็นความอ่อนโยนและความประณีตที่ผู้คนสามารถสัมผัสได้ในทุก ๆ วันเหมือนชีวิตประจำวันในปารีส

Q&A

1. Q: ร้าน VNV Pâtisserie ตั้งอยู่ที่ไหน และมีบรรยากาศแบบใด?
A: ร้านตั้งอยู่บนเนินเขาระหว่างเขตจางฮวาและไทจง ในบรรยากาศสงบ ร่มรื่น เหมือนสวนชนบทฝรั่งเศสใต้ ไม่ใช่ร้านในโรงแรมหรูหรือจุดเช็คอินยอดนิยม


2. Q: ใครเป็นผู้ก่อตั้งร้าน VNV Pâtisserie และมีภูมิหลังอย่างไร?
A: ก่อตั้งโดยคู่สามีภรรยาชาวไต้หวัน-ฝรั่งเศส คือ เชฟ Vincent Pelte จากปารีส และช็อกโกแลตเชฟ Valda Chang จากไต้หวัน ทั้งสองเคยร่วมงานกับเชฟ M.O.F. ชื่อดังของฝรั่งเศส


3. Q: เมนูขนมหวานยอดนิยมที่ร้าน VNV คืออะไรบ้าง?
A: เมนูแนะนำ เช่น “La Sicile” ขนมพิสตาชิโอผสมราสป์เบอร์รี่, “La Souvenir” ขนมวอลนัทคาราเมลและไวท์ช็อกโกแลต, รวมถึงกล่องคุกกี้แซนด์วิชช็อกโกแลตและคุกกี้ Fleur de Sablé รูปดอกไม้


4. Q: วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการทำขนมที่ VNV มาจากที่ไหน?
A: วัตถุดิบคัดสรรจากต่างประเทศและผลผลิตออร์แกนิกในไต้หวัน เช่น ถั่วผลไม้และถั่วเปลือกแข็ง รวมทั้งใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากฝรั่งเศส


5. Q: จุดเด่นของร้าน VNV Pâtisserie ที่ทำให้แตกต่างจากร้านอื่นคืออะไร?
A: ร้านสร้างบรรยากาศอบอุ่นและประณีตด้วยของตกแต่งโบราณจากปารีส พร้อมขนมหวานที่ผสมผสานเทคนิคดั้งเดิมและนวัตกรรม พร้อมลานกว้างเหมือนสวนชนบทฝรั่งเศสใต้ เหมาะกับการผ่อนคลายและจัดกิจกรรมต่าง ๆ



เนื้อหาที่น่าสนใจ:

Tags: